หินสังเคราะห์และหินแกรนิต ข้อแตกต่างของการนำใช้งาน

หินสังเคราะห์และหินแกรนิต สามารถใช้งานบริเวณท็อปเคาน์เตอร์ได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่ามีคุณสมบัติบางอย่างที่อาจจะทำให้การใช้งานยาก และดูแลรักษายาก วันนี้ SW จะมาแนะนำเกร็ดความรู้ในการเลือกใช้งานมาฝาก

หินสังเคราะห์ (SOLID SURFACE ) คือการนำ ACRYLIC มาผลิตเพื่อใช้ทดแทนหินธรรมชาติ โดยไม่มีส่วนผสมจากหินธรรมชาติเลย เพื่อเพิ่มคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น เช่น การทนต่อกรดด่าง ทนต่อคราบสกปรก เนื่องจากไม่มีรูพรุน ทำให้ดูแลทำความสะอาดง่าย และทนต่อความร้อนได้ดี  นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่พิเศษอื่นๆอีก คือ การดัดโค้ง สามารถผลิตได้ตามความต้องการอย่างไม่จำกัด และสามารถดัดโค้งได้ที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 30 ซม. ขึ้นไป สามารถนำไปหุ้มเสา หรือทำเคาน์เตอร์แบบโค้งได้

หินสังเคราะห์และหินแกรนิต ยังแตกต่างกันที่ หินสังเคราะห์สามารถโปร่งแสงได้ มักจะนำมาออกแบบโดยการจัดแสง รูปแบบ Indirect light คือการให้ความสว่างโดยวิธีใช้แสงสะท้อน ซ่อนไฟ เพื่อลดการใช้โคมไฟจากเพดานได้ ซึ่งรหัสที่โปร่งแสง ได้แก่ S001, S301, S309, S1001, S4010, S7012, S7013 และ S7014 ซึ่งส่วนใหญ่รหัสที่มีสีอ่อน อาทิ สีขาว จะสามารถโปร่งแสงได้ดี

ราคาจะอยู่ที่ประมาณ : 3500 - 20000 บาท/ตร.ม

หินแกรนิต ซึ่งถือว่าเป็นหินที่นิยมอย่างมากในอดีต เนื่องจากเป็นหินธรรมชาติ 100%  เป็นหินที่มีลวดลายและเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีราคาไม่สูงมาก นอกจากนี้คุณสมบัติที่เด่นที่สุดคือ เรื่องการทนต่อความร้อน และมีความแข็งแรง ทนทาน  แต่ทั้งนี้ หากใช้ไปนานๆจนความร้อนสะสมเรื่อยๆ ก็สามารถทำให้หินเปราะได้ นอกจากนี้ยังมีรูพรุนเล็กน้อย ทำให้เมื่อใช้งานในพื้นที่ที่เสี่ยงแต่การเกิดความชื้น และคราบสกปรก ก็จะทำให้หินแกรนิตดูดซึมคราบต่างๆเข้าไปในชั้นหิน จนทำให้เกิดคราบฝังแน่น 

คุณสมบัติเด่นที่สุดอีกอย่างคือ เป็นวัสดุที่ให้ความเงางาม หรูหรา มีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ใช้งานได้ทั้งปูพื้น กรุผนัง แต่หากเป็นการใช้งานบริเวณท็อปเคาน์เตอร์ จะใช้งานได้ไม่สะดวกมากนัก

ราคาจะอยู่ที่ประมาณ : 2000 - 10000 บาท/ตร.ม.

จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่า หินสังเคราะห์และหินแกรนิต  จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันหลายประการ

หินแกรนิต จะมีคุณสมบัติเด่นที่สุดเพียงข้อเดียวคือ การทนต่อความร้อน แต่หากใช้ไปนานๆจนความร้อนสะสมเรื่อยๆ ก็สามารถทำให้หินเปราะได้

หินสังเคราะห์ (SOLID SURFACE )  จะมีคุณสมบัติที่เด่นที่สุดในเรื่องของการทนต่อกรดด่าง การดูแลรักษาง่าย และการดัดโค้งที่เป็นวัสดุเดียวที่ทำได้